วิธีดูแลยางรถยนต์ เพื่อยืดอายุการใช้งานได้นานมากยิ่งขึ้น

การใส่ใจในเรื่องการดูแลยาง รถกะบะรับจ้าง เป็นประจำนั้น เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการรถรับจ้างจำเป็นต้องคำนึง เพราะรถกะบะรับจ้างต้องใช้งานรับจ้างขนย้ายสิ่งของอยู่เป็นประจำ และการขนย้ายบางครั้งอาจจะต้องเดินทางไกล ดังนั้นยางรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องการการดูแลรักษาไม่แพ้ส่วนอื่นๆในรถยนต์เลย โดยหลายๆคนอาจจะมองข้ามไป จนบ่อยครั้งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เราจึงมีวิธีการดูแลยางรถยนต์ เพื่อยืดอายุการใช้งานยางรถยนต์มาฝากกัน

วิธีดูแลยางรถยนต์ ??

  1. ดอกยาง สิ่งสำคัญในการ ดูแลยางรถยนต์

ดอกยากรถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกที่บ่งชี้ความสมบูรณ์ของยางรถยนต์ ดังนั้น จึงควรสังเกตสภาพดอกยางของคุณทั้ง 4 ล้อเป็นประจำ อย่างน้อย ๆ ที่สุดเดือนละ 1 ครั้ง โดยหากแท่งบอกอาการสึกของดอกยางปรากฏให้เห็น แสดงว่าถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนยางชุดใหม่แล้ว หากดอกยางสึกเฉพาะด้านนอก หมายความว่าความดันลมยางนั้นอ่อนเกินไปหรือเป็นไปได้ว่าลมยางรั่ว หรือหากยางสึกเฉพาะตรงกลาง เกิดจากความดันลมยางที่มีมากเกินไป หากขับขี่เป็นเวลานาน ผนวกกับสภาพอากาสที่ร้อนจัดของประเทศไทย อาจทำให้ยางระเบิดได้ ควรลดความดันลมยางให้อยุ่ในระดับที่เหมาะสม ข้อดีอีกประการของการตรวจเช็กดอกยาง คือคุณสามารถเห็นสิ่งแปลกปลอมผิดปกติที่บริเวณยางรถยนต์ ที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์ของคุณสึกหรอหรือรั่วได้

  1. หมั่นตรวจเช็กความดันลมยาง

ควรหมั่นตรวจเช็กระดับแรงดันของลมยางอย่างสม่ำเสมอ และพยายามรักษาระดับแรงดันลมยาง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตามที่กำหนดอยู่เสมอ โดยหากมีแรงดันลมยางมากเกินไป จะทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนน้อยลง หรือหากมีแรงดันลมยางน้อยเกินไป ทำให้เกิดแรงเสียดทานมากขึ้นและทำให้รถยนต์กินน้ำมันมากขึ้น ดังนั้น การดูแลระดับแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นและทำให้อายุการใช้งานของยางรถยนต์ยืนยาวมากขึ้น โดยการตรวจสอบความดันลมยาง สามารถทำได้ ดังนี้

  • เตรียมเกทวัดความดันลมยาง หรือใช้ได้ที่จุดบริการต่าง ๆ
  • ควรตรวจสอบความดันลมยางในตอนเช้า หรือเมื่อยางรถยนต์กำลังเย็นอยู่ หากยางรถยนต์ร้อน จะทำให้การตรวจไม่เที่ยงตรง
  • คลายวาล์วหัวสูบลมและเสียบเกทวันบนวาล์ว หากมีเสียงฟู่สั้น ๆ ถือว่ายางปกติ
  • ตรวจสอบค่าความดันลมยาง หากไม่ตรงตามค่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดเอาไว้ ให้ปรับความดันลมยางตามความเหมาะสม ด้วยเครื่องอัดลมหรือเครื่องสูบยางที่อู่รถ
  • ตรวจวัดค่าความดันลมยางอีกครั้งให้ตรงกับค่ามาตรฐาน
  • เมื่อความดันลมยางอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว ให้ปิดฝาวาล์ว
  1. สลับยางรถยนต์

ควรสลับยางรถยนต์ของคุณในทุก ๆ 10,000 ถึง 12,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน สาเหตุที่ควรสลับยางรถยนต์นั้นก็เพราะ ยางล้อหน้านั้นสึกหรอเร็วกว่าล้อหลัง การสลับตำแหน่งจะช่วยให้ยางสึกหรอเท่ากันทั้งชุด และทำให้ยางสามารถใช้งานได้นานขึ้น และเมื่อยางมีความสมดุลทั้งชุดก็จะทำให้การควมคุมบังคับรถนั้นง่ายและสะดวกมากขึ้น แต่ต้องเน้นย้ำว่า ความดันลมยางทั้งล้อหน้าและหลังต้องเท่ากัน และอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ยางจึงจะสึกหรอสมดุลเท่ากันทั้งชุดนะคะ

  1. การตั้งศูนย์

การตั้งศุนย์คือการปรับหน้าล้อให้เท่า ๆ กัน ให้มีความสัมพันธ์กันทุกมุม เพื่อให้รถวิ่งได้ตรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะหากตั้งศูนย์ไม่ดี จะทำให้คุณเกร็งในการบังคับพวงมาลัยจนอาจเกิดอาการเมื่อยล้าและก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ รถที่มีการตั้งศุนย์ดี ๆ สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ คือ หากคุณขับรถอยู่แล้วปล่อยมือสัก 5 วินาที รถก็ยังคงวิ่งตรงอยู่ ไม่เอียงไม่เลี้ยงไม่เบี้ยวไปทิศทางอื่น และในขณะเลี้ยว ล้อคู่หน้าต้องเอียงตามความเหมาะสมไม่กินหน้ายางมากเกินไป และต้องให้หน้ายางสัมผัสผิวถนนมากที่สุด เพื่อป้องกันดอกยางศึกไม่เท่ากันนั่นเอง

  1. การถ่วงล้อ

การถ่วงล้อคือการเพิ่มน้ำหนักให้กับล้อแต่ละล้อ เพื่อให้มีความสมดุลมากที่สุด ซึ่งการถ่วงล้อนี้จะช่วยให้เกิดการกระจายน้ำหนักอย่างถูกต้องของยางและกะทะล้อ หากล้อไม่สมดุลจะทำให้ดอกยางสึกไม่สม่ำเสมอ และลดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ลงไปได้ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสมรรถนะในการยึดเกาะถนนของยางรถยนต์ และระบบช่วงล่างของรถยนต์ เช่น ลูกปืนล้อและโช๊คอัพด้วย โดยหากคุณรู้สึกว่าพวกมาลัยสั่นเวลาวิ่งบนทางเรียบ แสดงความเกิดความไม่สมดุลต้องรีบดำเนินการถ่วงล้อ

สาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์สึกหรอ

การสึกหรอของยางรถยนต์นั้น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุบางสาเหตุอาจจะทำให้ยางรถยนต์เกิดความเสียหาย หรือสึกหรอมากผิดปกติเลยก็ได้ ซึ่งสาเหตุเหล่านั้น มีดังนี้

  • ความดันลมยางไม่ถูกต้องตามที่คู่มือกำหนด หรือความดันลมยางข้างซ้ายและข้างขวาไม่เท่ากัน
  • ตั้งแนวศูนย์ล้อไม่ถูกต้อง
  • ข้อต่อต่าง ๆ ของแกนต่อระบบบังคับเลี้ยว สึกหรอกมากหรือหลวมมากเกินไป
  • แบริ่งล้อหน้าสึกหรอ เสื่อมสภาพ หรือปรับไม่ถูกต้อง
  • ช่วงล่างของล้อหน้าหลวม
  • โช๊คอัพชำรุด หรือฐานยึดหลวมเกินไป
  • ล้อไม่สมดุลหรือยางในแต่ละด้านสึกหรอไม่เท่ากัน
  • สปริงของระบบช่วงล่างชำรุดเสียหาย หรืออ่อนเกินไป
  • เบรกของล้อด้านซ้ายและขวาไม่สมดุลกัน
  • ฐานช่วงล่าง หรือโครงสร้างเสียศูนย์
  • ความไม่ชำนาญในการเลือกเส้นทางของผู้ขับ ทำให้ยางเจอสภาพถนนที่ไม่ดี เสียดสีกับถนนจนดอกยางสึกกร่อน

ซึ่งทั้งหมดนี้ คือการดูแลรักษายางรถยนต์ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น หากทำตามคำแนะนำของเรา รับรองว่าไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อยๆแน่นอน สามารถขับขี่ด้วยความปลอดภัย และยังช่วยประหยัดเงินไปได้อีกเยอะเลยทีเดียวค่ะ

?? ท่านใดกำลังมองหารถรับจ้างขนของ  สำนักงานที่มีคุณภาพ รับจ้างขนของทุกชนิดทั่วประเทศ ??

เจริญภัทธิ์ขนส่ง เราคือผู้นำด้านงานบริการรถรับจ้าง เรามีประสบการณ์ในการทำงานบริการรถรับจ้างขนของมาอย่างยาวนานกว่า 10ปี รับจ้างขนของทุกชนิด รับจ้างขนของทั่วไป เรามีรถรับจ้างขนของมากมายให้คุณได้เลือกไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้าง , รถหกล้อรับจ้าง , รถสี่ล้อใหญ่รับจ้าง , รถเฮี๊ยบรับจ้าง , รถสิบล้อรับจ้าง , รถเทรลเลอร์รับจ้างและอีกมากมาย บริการขนย้ายทุกประเภท ขนย้ายบ้าน , ย้ายหอ , ย้ายคอนโด , ย้ายออฟฟิศ , ขนย้ายเครื่องจักรเป็นต้นฯ พร้อมมีบริการพนักงานยกสินค้าให้ฟรี พนักงานของเราทุกคนมีความเป็นมืออาชีพและมีคุณภาพ มีรถรับจ้างคอยให้บริการรับจ้างขนของครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วทั่วประเทศไทย ไว้คอยให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมง.

?? ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ขอรายละเอียดได้ที่ ??

?? เบอร์ 061-1501500 คุณภัทร์  หรือ  ? LINE ID : pat.1500 ??

?? เบอร์ 062-4976747 คุณป๊อป  หรือ ? LINE ID : pop6747 ??