การใช้รถกะบะเพื่อขนย้ายสิ่งของถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป ซึ่งรถกะบะเป็นพาหนะที่คนไทยส่วนมากซื้อมาเพื่อใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาที่มีรถกะบะส่วนตัวไว้ใช้เดินทางไปมา พ่อค้าแม่ค้าที่มักจะนิยมใช้รถกระบะ,รถหกล้อและรถสิบล้อในการขนย้ายสิ่งของต่างๆเพื่อนำไปขาย กลุ่มเกษตรกรที่ใช้รถกะบะในการขนผลผลิตไปจำหน่ายใช้รถในทำมาหากิน และบริษัทต่างๆ เช่น ผู้ประกอบการรถรับจ้าง มักจะนิยมนำรถกะบะมาให้บริการกับลูกค้า ซึ่ง รถกะบะรับจ้าง ของผู้ให้บริการรถรับจ้างนั้นมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น รถกะบะมีแค๊บ , รถกะบะตอนเดียว , รถกะบะมีคอกสูง มีหลังคา , รถกะบะคอกเตี้ย , รถกะบะมีตู้ทึบเป็นต้นฯ ซึ่งลูกค้าส่วนมาที่มาใช้บริการรถรับจ้างขนของก็มักจะเลือกใช้รถกะบะรับจ้างเป็นส่วนใหญ่ นั่นเพราะว่า รถกะบะรับจ้าง มีราคาในการจ้างขนย้ายที่ไม่สูงและย่อมเยาว์อีกทั้งยังสะดวกสบายคล่องแคล่วในการใช้งานอีกต่างหาก ??
วันนี้เราจะมาพูดถึงการขนย้ายสิ่งของที่ใช้รถกะบะส่วนตัว ไม่ใช่การใช้งานกับผู้ให้บริการรถรับจ้างซึ่งการขนของขึ้นรถนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถขนขึ้นเท่าไหร่ก็ได้ เพราะว่ามีเรื่องของเกณฑ์น้ำหนักที่รถจะสามารถบรรทุกได้อยู่ หากเราขนของขึ้นรถมากจนเกินที่ผู้ผลิตรถกำหนดไว้ ก็อาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับเรา,ผู้ขับขี่และคนอื่นได้ นอกจากนี้ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวกับการขนของขึ้นรถได้กำหนดไว้อีกด้วย
ขนย้ายสิ่งของอย่างไรให้ถูกต้องต้ามที่กฎหมายกำหนด ❎??✈️?
- รถกระบะเปิดท้ายขนของจะผิดกฎหมายหรือไม่
กรณีที่เราเปิดท้ายรถเพื่อขนของนี้ ข้อกำหนดสิ่งที่เราจะต้องทำจะแยกเป็น 2 กรณี คือ
- กรณีที่ 1 ช่วงกลางวัน จะต้องติดธงสีแดงเรืองแสงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 30 ซม. ยาว 45 ซม. ไว้ที่ตอนปลายสุดของสิ่งที่บรรทุกด้วย
- กรณีที่ 2 ช่วงกลางคืน หรือในเวลาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะ 150 เมตร เราจำเป็นต้องติดไฟสัญญาณสีแดงที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในระยะ 150 ม.
- หากเราหรือคนขับไม่ยอมทำตามข้อที่กำหนดไว้ ก็มีสิทธิ์ถูกจับและโดนปรับ 1,000 บาทได้ เพราะถือว่าทำผิดกฎหมาย
หากว่าเราเปิดกระบะท้ายรถเพื่อขนของและทำตามที่กำหนดไว้อย่างถูกต้อง แบบนี้จะไม่นับว่าเผ็นการทำผิดกฎหมาย แต่ในบางพื้นที่นั้นอาจจะอยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางที่ดีนั้นเราควรจะไม่บรรทุกแบบเปิดท้ายกระบะจะเป็นการดีที่สุด รวมไปถึงเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองอีกด้วย
- การขนย้ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบถูกกฎหมาย
หลายคนก็อาจจะสงสัยว่า มีข้อกำหนดไว้ด้วยเหรอ ? ซึ่งจริงๆ แล้วในส่วนของการขนแอลกอฮอล์นี้ก็มี พ.ร.บ. สุรา กำหนดไว้เช่นกัน ดังนี้
- พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493 มาตราที่ 14 ระบุว่า
ห้ามมิให้ทําการขนสุราตั้งแต่ 10 ลิตรขึ้นไป เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตขนสุรา จากเจ้าพนักงานสรรพสามิต หรือกรณีขนสุราเข้ามาในราชอาณาจักรจากเจ้าพนักงาน ศุลกากร หรือเป็นสุราชนิดที่ได้มีกฎกระทรวงยกเว้นให้ทําการขนได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตขนสุรา ซึ่งผู้ที่ได้รับใบอนุญาตต้องนำใบอนุญาตขนสุรากํากับไปกับสุราที่ขนด้วย
- พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493 มาตราที่ 15 ระบุไว้ว่า
ผู้ใดทําการขนสุราที่ทําในราชอาณาจักรเกินกว่า 1 ลิตรแต่ไม่ถึง 10 ลิตรเข้าใน หรือออกนอกเขตท้องที่ที่กําหนดในกฎกระทรวงจะต้องได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิต โดยใช้บังคับกรณีผู้โดยสารทําการขนสุราโดยยานพาหนะสาธารณะที่รับส่งคนโดยสารเป็นปกติผ่านเขตท้องที่ที่กําหนดนั้น หรือเป็นสุราชนิดที่ได้มีกฎกระทรวงยกเว้นให้ทําการขนได้โดยไม่ต้อง มีใบอนุญาตขนสุรา
เอาเป็นว่าให้เราเข้าใจง่ายๆ เกี่ยวกับการขนเหล้าเบียร์ขึ้นรถว่า เราไม่สามารถขนเหล้าเบียร์ขึ้นรถได้เกิน 10 ลิตรนั่นเองค่ะ ! และถ้าต้องการจะขนเกินกว่านี้ เราจะต้องมีใบอนุญาตการขนสุราจากเจ้าพนักงานก่อน ตามที่ พ.ร.บ. สุรา ได้กำหนดไว้ ถึงจะขนย้ายในจำนวนมากได้ค่ะ
- การดัดแปลงและต่อเติมตะแกรงเหล็กที่ท้ายกระบะ
ถ้าได้ทำการดัดแปลงตัวรถกระบะหรือต่อเติมส่วนอื่นๆของรถเกินไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ เช่น ติดตั้งโครงเหล็กตะแกรงที่หลังคา , ติดตะแกรงเหล็กเสริมรั้วที่กระบะข้าง เป็นต้นฯ เราก็ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ ตรวจสอบว่ามีความแข็งแรงและปลอดภัยหรือไม่ ? จากนั้นให้เราไปแจ้งแก้ไข ณ สำนักงานขนส่ง ที่รถจดทะเบียนไว้โดยขั้นตอนที่ว่ามานี้ ต้องทำก่อนการนำรถไปใช้งาน ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกจับและโดนปรับได้ และเพราะว่าในบางครั้งการแก้ไขดัดแปลงรถ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดอันตรายต่างๆ ได้ โดยการแก้ไขดัดแปลงนี้จะต้องไม่เป็นการติดตั้งเพื่อให้สามารถใช้บรรทุกของได้มากขึ้นด้วย จึงจะไม่ผิดกฎหมาย
❎ส่วนโทษของการแก้ไขดัดแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้แบบเดิม โดยมิได้แจ้งต่อนายทะเบียน จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ประกอบการมาตรา 60 มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ฐานแก้ไขดัดแปลงรถ
- บรรทุกสิ่งของเกินขนาดของรถ
หลายคนคงจะเคยผ่านหูผ่านตากันมากันบ้าง กับรถที่บรรทุกสิ่งของเกินออกมาจากตัวรถ ถ้าหากเกินออกมาเพียงเล็กน้อยก็คงจะพอทนกันได้ แต่รถบางคันนั้นบรรทุกเกินออกมายาวมากๆ จนอาจจะเป็นอันตรายต่อรถคันอื่นได้ ก็คงจะไม่ไหว ซึ่งการทำเช่นนี้ถือว่าผิดกฎหมายระค่ะ เพราะส่วนนี้ก็มีกฎหมายกำหนดไว้เช่นกัน คือ
- กฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 5 และมาตรา 18 ระบุไว้ว่า รถบรรทุกสิ่งของจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์นี้ นั่นคือ ด้านหน้าจะต้องไม่ยื่นเกินหม้อหรือกันชนหน้ารถ ส่วนด้านหลังยื่นได้ไม่เกิน 2.50 เมตร หากเป็นรถพ่วงด้านหลังต้องยื่นไม่เกิน 2.50 เมตร สำหรับ ความกว้างบรรทุกได้ไม่เกินความกว้างของตัวรถ ความสูงกรณีที่รถมีความกว้างเกิน 2.30 เมตรสามารถบรรทุกสิ่งของสูงได้ไม่เกิน 3.80 เมตร หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 1,000 บาท
นอกจากนี้ในกรณีที่เราใช้รถขนย้ายสิ่งของ เรานั้นต้องมีสิ่งป้องกันของไม่ให้ตกหล่น,รั่วไหล หรือปลิวออกจากรถ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น รวมถึงการบรรทุกของเกินออกจากตัวรถนี้เราต้องทำตามที่ข้อ 1. ที่เราได้บอกไว้ด้วยเพราะหากว่าเราไม่ทำตาม เราก็มีสิทธิ์ถูกจับและปรับ 1,000 บาทได้ เพราะถือว่าคุณทำผิดกฎหมาย ❎??✈️?
?? ท่านใดกำลังมองหารถรับจ้างขนของ สำนักงานที่มีคุณภาพ รับจ้างขนของทุกชนิดทั่วประเทศ ??
เจริญภัทธิ์ขนส่ง เราคือผู้นำด้านงานบริการรถรับจ้าง เรามีประสบการณ์ในการทำงานบริการรถรับจ้างขนของมาอย่างยาวนานกว่า 10ปี รับจ้างขนของทุกชนิด รับจ้างขนของทั่วไป เรามีรถรับจ้างขนของมากมายให้คุณได้เลือกไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้าง , รถหกล้อรับจ้าง , รถสี่ล้อใหญ่รับจ้าง , รถเฮี๊ยบรับจ้าง , รถสิบล้อรับจ้าง , รถเทรลเลอร์รับจ้างและอีกมากมาย บริการขนย้ายทุกประเภท ขนย้ายบ้าน , ย้ายหอ , ย้ายคอนโด , ย้ายออฟฟิศ , ขนย้ายเครื่องจักรเป็นต้นฯ พร้อมมีบริการพนักงานยกสินค้าให้ฟรี พนักงานของเราทุกคนมีความเป็นมืออาชีพและมีคุณภาพ มีรถรับจ้างคอยให้บริการรับจ้างขนของครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วทั่วประเทศไทย ไว้คอยให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมง.
?? ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ขอรายละเอียดได้ที่ ??
?? เบอร์ 061-1501500 คุณภัทร์ หรือ ? LINE ID : pat.1500 ??
?? เบอร์ 062-4976747 คุณป๊อป หรือ ? LINE ID : pop6747 ??